ข้อบังคับคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ
ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาลูกเสือ
พ.ศ.2553
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 (7) และมาตรา 46 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2551 ประกอบกับมติคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ จึงออกข้อบังคับคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า "ข้อบังคับคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาลูกเสือ พ.ศ. 2553"
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกข้อบังคับคณะลูกเสือแห่งชาติ ว่าด้วยการปกครองหลักสูตรและวิชาพิเศษลูกเสือ พ.ศ. 2509 ในส่วนที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ตามข้อบังคับนี้
ข้อ 4 ในข้อบังคับนี้ "ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ" หมายความว่า ผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียน รองผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียน ผู้กำกับกลุ่มลูกเสือ รองผู้กำกับกลุ่มลูกเสือ ผู้กำกับกองลูกเสือ รองผู้กำกับกองลูกเสือ นายหมู่ลูกเสือ และรองนายหมู่ลูกเสือ
"ผู้อำนวยการสถานศึกษา" หมายความว่า ผู้อำนวยการหรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นของสถานศึกษาซึ่งกองลูกเสือนั้นสังกัดอยู่ และให้หมายความรวมถึง สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์การเรียน วิทยาลัย วิทยาลัยชุมชน สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษา หรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชน หรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของรัฐหรือเอกชนที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
ข้อ 5 ผู้บังคับบัญชาลูกเสือต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้สุภาพเรียบร้อย มีความประพฤติดี สมควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก
(2) เป็นผู้มีศาสนา
(3) เป็นผู้ไม่มีโรคซึ่งเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(4) เป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือถ้าไม่มีสัญชาติไทยต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ
(5) เป็นผู้มีความเข้าใจในวัตถุประสงค์ หลักการและวิธีการของลูกเสือ
(6) เป็นผู้มีอาชีพเป็นหลักฐานไม่ขัดต่อศิลธรรมอันดี
(7) มีอาบุและผ่านการฝึกอบรม ดังนี้
(ก) ผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียน ให้แต่งตั้งจากผู้อำนวยการสถานศึกษานั้นและต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนให้แต่งตั้งจากรองผู้อำนวยการสถานศึกษานั้น ที่ได้รับมอบหมายและต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์
ผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ให้รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียนไปก่อน และต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้ได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
(ข) ผู้กำกับกลุ่มลูกเสือมีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบแปดปีบริบูรณ์และต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ รองผู้กำกับกลุ่มลูกเสือมีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์และต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์
(ค) ผู้กำกับกองลูกเสือวิสามัญมีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์และต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ประเภทลูกเสือวิสามัญ รองผู้กำกับกองลูกเสือวิสามัญมีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบสามปีบริบูรณ์ และต้องได้รับวุฒิบัติการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น
(ง) ผู้กำกับกองลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่มีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบสามปีบริบูรณ์และต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ประเภทลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ รองผู้กำกับกองลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่มีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ และต้องได้รับวุฒิบัติการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ขั้นความรู้เบื้องต้น
(จ) ผู้กำกับกองลูกเสือสามัญมีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์และต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ประเภทลูกเสือสามัญ รองผู้กำกับกองลูกเสือสามัญมีอายุไม่น้อยกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ และต้องได้รับวุฒิบัติการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น
(ฉ) ผู้กำกับกองลูกเสือสำรองมีอายุไม่น้อยกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์และต้องได้รับเครื่องหมายวูดแบดจ์ประเภทลูกเสือสำรอง รองผู้กำกับกองลูกเสือสำรองมีอายุไม่น้อยกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ และต้องได้รับวุฒิบัติการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสำรอง ขั้นความรู้เบื้องต้น
(ช) อายุของนายหมู่ลูกเสือและรองนายหมู่ลูกเสือเป็นไปตามประเภทของลูกเสือนั้นๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ข้อบังคับ/ราชกิจจานุเบกษา
http://www.scoutthailand.org/index.php?option=com_content&view=article&id=69&Itemid=89