วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

ความหมายของคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ

คำปฏิญาณของลูกเสือ
"ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า"
ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

คำปฏิญาณ 3 ข้อ

ข้อ 1 "ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"
    ชาติ หมายถึง กลุ่มชนที่มีความรู้สึกในเรื่องเชื้อชาติ ศาสนา ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมเดียวกัน หรืออยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเดียวกัน ดังนั้น ลูกเสือควรปฏิบัติต่อชาติ ดังนี้
    ๑. ประพฤติตนเป็นพลเมืองดี หมั่นศึกษาหาความรู้ใส่ตัว
    ๒. เชื่อฟัง ปฏิบัติตามคำสั่งและคำแนะนำที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
    ๓. ไม่ประพฤติผิดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และกฎหมายบ้านเมือง
    ๔. เป็นผู้ประกอบอาชีพสุจริต สร้างความเจริญก้าวหน้าแก่ชาติ
    ๕. เป็นผู้เสียสละ พลีเลือดเนื้อและชีวิตรับใช้ชาติด้วยความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวต่อสู้รักษาเอกราชของชาติไว้ในเมื่อมีศรัตรูมารุกราน

    ศาสนา เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งจิตใจและสั่งสอนให้คนรู้ดีรู้ชอบ ละเว้นความชั่วไม่เบียดเบียนกัน ให้ประพฤติแต่ความดี และประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ ลูกเสือจึงต้องเคารพและปฏิบัติต่อศาสนาดังนี้
    ๑. ปฏิบัติกิจทางศาสนา ตามจารีตประเพณีที่ตนนับถือด้วยใจบริสุทธิ์
    ๒. เคารพสักการะ เชื่อฟัง และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของศาสนาที่ตนนับถือ
    ๓. ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ โดยไม่แสดงอาการลบหลู่ศาสนาอื่น
    ๔. ละเว้นการประพฤติชั่ว กระทำแต่ความดี
    ๕. เข้าร่วมพิธีทางศาสนาตามเวลาและโอกาสอันควร

    พระมหากษัตริย์ ทรงเป็นองค์พระประมุขของชาติ ทรงเป็นอัครศานูปถัมภก เป็นพระบรมราชูปถัมภ์คณะลูกเสือแห่งชาติ ทรงเป็นจอมทัพไทย และเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยลูกเสือต้องปฏิบัติต่อองค์พระมหากษัตริย์ดังนี้
    ๑. ถวายความเคารพสัการะต่อพระองค์ท่าน พระบรมวงศานุวงศ์และพระบรมฉายาลักษณ์ ไม่แสดงกิริยาวาจาอันเป็นการลบหลู่ดูหมิ่น
    ๒. ไม่กระทำการใดๆ ที่จะเป็นการกระทบกระเทือนเสื่อมเสียพระเกียรติคุณ อีกทั้งยังต้องช่วยป้องกันมิให้คนอื่นกระทำเช่นนั้นด้วย
    ๓. ยอมสละเลือดเนื้่อถวายเป็นราชพลีได้



ข้อ 2 "ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ"
    หมายความว่า ลูกเสือเป็นผู้มีใจโอบอ้อมอารี มีเมตตากรุณาต่อสัตว์ ต่อเพื่อน และต่อผู้อื่นเสมือนหนึ่ง เป็นญาติพี่น้องของตน ยอมเสียสละความสุขส่วนตัวบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ช่วยผู้อื่น เมื่อมีภัย โดยเฉพาะเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ที่อ่อนแอกว่า

ข้อ 3 "ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ"
    หมายความว่า ลูกเสือจะต้องปฏิบัติตนตามกฎ ๑๐ ข้อของลูกเสืออย่างเคร่งครัด ไม่หลีกเลี่ยง เพราะกฎ ดังกล่าวเป็น "ศิล" ของลูกเสือ เป็นหลักยึดเหนี่ยวที่จะทำให้ลูกเสือเป็นคนดีของครอบครัว ของสังคม และของประเทศชาติ


กฎของลูกเสือ
1. ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
2. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
3. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
4. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก
5. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
6. ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
7. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา มารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
8. ลูกเสือมีใจร่าเริงและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
9. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
10.ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ

กฎ 10 ข้อของลูกเสือ
ข้อ 1 "ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้" (A scouts is to be Trusted)
    ลูกเสือจะต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างเคร่งครัด มั่นคงอยู่ในคุณงามความดี ไม่ยอมแพ้แก่สิ่งยั่วยุหรืออำนาจฝ่ายต่ำ กระทำตนให้เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจแก่ผู้อื่นได้เสมอ

ข้อ 2 "ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ" (A scout is loyal)
    เป็นการยืนยันในคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้อย่างมีเกียรติ ด้วยการแสดงออก ปฏิบัติจริงทุกวิถีทาง เพื่อปกป้อง สถาบันชาติ สถาบันศาสนาและสถาบัยพระมหากษัตริย์ รวมถึงจะต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์กตัญญ ูต่อผู้มีพระคุณทุกท่าน

ข้อ 3 "ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น" (A scout duty is to be useful and to help others)
    ลูกเสือจะต้องเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว พร้อมอยู่เสมอที่จะบำเพ็ญประโยชน์และเป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่นได้ ซึ่งหมายความว่าจะต้องพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถ และพึ่งตนเองได้ด้วย

ข้อ 4 "ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก" (Scout is a friend to all and a brother to every other Scout)
    ลูกเสือจะต้องเป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดี มีจิตใจ โอบอ้อมอารีมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนทุกคนโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา และชั้นวรรณะ รวมทั้งมีความตระหนักในหลักภารดรภาพคือ ความรู้สึกเสมือนเป็นพี่น้องกับ ลูกเสืออื่นทั่วโลก

ข้อ 5 "ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย" (A scout is Courteous)
    ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มีกิริยาวาจาสุภาพอ่อนโยนอ่อนน้อม มีสัมมาภารวะต่อบุคคลทั่วไป ไม่ยกตนข่มท่าน

ข้อ 6 "ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์" (A scout is a Friend to animals)
    ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มีใจเมตตากรุณาสงสารสัตว์ ไม่รังแกหรือทรมานสัตว์ให้ได้รับความเจ็บปวด หรือเมื่อพบสัตว์ได้รับความลำบากก็ต้องให้การช่วยเหลือมันจนพ้นภัย

ข้อ 7 "ลูกเสือต้องเชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดามารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ" (A scout obeys orders of his parents patrol leader of Scoutmaster with out question)
    ในฐานะที่บิดามารดาเป็นผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่ขึ้นมา รวมไปถึงบรรดาครู อาจารย์และผู้บังคับ บัญชา ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นที่ผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตมากว่าเรา ดังนั้น คำสอน ดำชี้แนะ หรือคำสั่งของท่าน จึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ลูกเสือจึงจะต้องเคารพเชื่อฟังและปฏิบัติตามโดยฉับไว ไม่ลังเลใจ อันเป็นวินัยซึ่งเกิดจาก ภายในมิใช่เป็นการถูกบังคับให้กระทำ

ข้อ 8 "ลูกเสือมีใจร่าเริงและไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก" (A scout Smiles and under difficulties)
    ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มี่อาการยิ้มแย้มแจ่มใสและร่าเริงอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะตกอยู่ในความยากลำบากปานใดก็ตามก็จะไม่แสดงอาการย่อท้อให้เห็น

ข้อ 9 "ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์" (A scout is Thrifty)
    ลูกเสือจะต้องเป็นผู้รู้จักประหยัดทรัพย์ทั้งของตนและผู้อื่น รู้จักเก็บหอมรอมริบ สำหรับใช้บำรุงตนไม่เบียดเบียนผู้อื่นในเรื่องทรัพย์สินเงินทอง

ข้อ 10 "ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ" (A Scout is clean in thought word and deed)
    ลูกเสือจะต้องรู้จักสำรวมและระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้มีความอิจฉา ริษยา คิดเบียดเบียนหรือทำให้ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่นเดือดร้อนและชำรุดเสียหายรวมไปถึงการไม่พูดคำหยาบ คำเท็จ โดยพยายามยัดหลักว่า "สิ่งที่คิด กิจที่ทำ คำที่พูด" จะต้องไม่ทำให้ทั้งตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ซึ่งถ้าปฏิบัติได้ดังนี้ ก็เท่ากับว่าเราได้ดำรงตนอยู่ในศิลธรรมอันดี มีความประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจแล้ว